หลังจากที่ฤดูกาลใหม่ของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษประเดิมขึ้นมาได้จนถึงนัดที่ 8 ของฤดูกาลก่อนจะเบรกเข้าแคมป์ทีมชาตินั้น เมื่อดูย้อนกลับไปดูที่ตารางคะแนนปรากฏว่าทีมที่ครองลำดับหนึ่งอยู่นั้นคือทีม “หมาจิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งฤดูกาลนี้พวกเขากลับมาเล่นได้อย่างกระปรี้กระเปร่าและก็มีชีวิตชีวาขึ้นอย่างยิ่ง จากความสามารถการทำทีมของผู้จัดการทีม เบรนดัน ร็อดเจอร์ ทำให้แฟนๆอดคาดหมายถึงการไปถึงตำแหน่งแชมป์ที่พวกเขาเคยทำได้มาแล้วอย่างเหนือความมุ่งหวังเมื่อปี 2016
แล้วก็ในปีนี้การที่พวกเขาทำผลงานเจริญจนถึงสามารถรั้งตำแหน่งหัวหน้าฝูงไว้ได้ตอนนี้ มันก็ทำให้ช่องทางที่พวกเขาจะสามารถทำเรื่องน่าอัศจรรย์นั้นได้อีกรอบ รวมทั้งเหตุต่างๆที่อาจจะทำให้พวกเขาไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้ก็คือ
1.แท็กติกของร็อดพบร์
เบรนดัน ร็อดเจอร์นั้นมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลผู้เผลอไผลในปรัชญากระบวนการทำกลุ่มตามแบบฉบับของลา มาเซียอยู่แล้ว ซึ่งก็คือการต่อบอลที่ไหลลื่นและงดงาม และเมื่อทุกๆอย่างพอดีอีกทั้งกลยุทธ์เล่นและก็ความเข้าใจในแบบอย่างการเล่นแล้ว ในการหมุนวนนักฟุตบอลของเขาก็จะทำให้ความสามารถของการเล่นไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก ซึ่งจุดนี้จะมีผลให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำกันของฝีเท้านักเตะตัวจริงกับผู้เล่นสำรองต่ำลงไป ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นข้อเสียเปรียบที่บรรดาทีมเล็กจึงควรเจอรวมทั้งหากว่ามันน้อยลงไปได้ ข้อเสียเปรียบนี้ก็จะต่ำลงตามไปด้วย
2.ฟอร์มของเจมี่ วาร์ดี้
จะมองเห็นได้ว่าฟอร์มการเล่นของเจมี่ วาร์ดี้ในฤดูกาลนี้นั้นสามารถกลับมายิงได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอีกครั้งแม้ว่าอายุของเขาจะมากถึง 33 https://doonung99.com/ ปีแล้วก็ตาม โดยในช่วงฤดูกาลนี้เขายิงไปแล้วถึง 8 ประตูในลีกจากการลงในสนามทั้งผอง 7 นัดเลยทีเดียว และก็ยังสามารถจ่ายให้เพื่อนร่วมกลุ่มได้อีก 1 ลูกอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเขาสามารถยืนระยะรวมทั้งรักษาฟอร์มได้แบบนี้ตลอดทั้งฤดูกาลละก็ เลสเตอร์ก็มีสิทธิ์จะทำเป็นสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัย
3.ความไม่เที่ยงของกลุ่มใหญ่
หลังจากกลับมาทำชิงชัยอีกรอบหลังจากเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดนั้น เราจะมองเห็นได้ว่าบรรดากลุ่มใหญ่มักจะมีการเล่นที่ไม่แน่นอนรวมทั้งผิดพลาดให้เห็นอยู่เป็นประจำ ตามที่พวกเขาก็เคยจัดหนักกลุ่มใหญ่อย่างเรือใบสีฟ้ามาแล้วถึง 5 เม็ด ซึ่งปัญหาต่างๆที่ทำให้บรรดาทีมใหญ่เป๋นั้นสำคัญๆก็น่าจะเกิดเรื่องความฟิต อาการบาดเจ็บ การที่นักเตะจำเป็นต้องไปเล่นไกลๆในถ้วยต่างๆรวมทั้งทีมชาติ และอีกอย่างหนึ่งที่คงจะเกี่ยวข้องกันก็คือการที่พวกเขาไม่มีกองเชียร์ข้างสนามคอยกระตุ้นเร้ารวมทั้งขู่คู่ปรปักษ์นั่นเอง เพราะเหตุว่าจะต้องไม่ลืมเลือนว่านักเตะของกลุ่มใหญ่ๆนั้นรู้จักดีกับการเล่นเฉพาะหน้าแฟนบอลหลายหมื่นคนของตน ที่กลุ่มฝั่งตรงข้ามแค่เดินลงสนามก็แข้งขาสั่นแล้วทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อแฟนบอลเข้าสนามไม่ได้จุดนี้พวกเขาก็เลยไม่ได้เปรียบอีกต่อไป
เมื่อมองจากทั้งยังสามต้นสายปลายเหตุที่ว่ามานี้ มันน่าจะทำให้แฟนบอลของทีมจิ้งจอกประเทศไทยพอใช้หวังสูงกันอีกรอบ แม้กระนั้นก็คงจะต้องลุ้นกันอีกยาวๆเนื่องจากว่าฤดูกาลนี้ยังเหลือโปรแกรมอีกมากเลยทีเดียว แม้กระนั้นถ้าหากเบรนดัน ร็อดพบร์และก็ลูกทีมยังคงเล่นได้แบบงี้ไปเรื่อยถ้วยใบลำดับที่สองในประวัติศาสตร์สมาคมก็อาจไม่ไกลเกินเอื้อม